บทที่ 2 ตอนที่ 2
ในที่สุด สายตาของมะลิก็สามารถละจากเรือนร่างของเซรีมได้สำเร็จ หล่อนเป่าลมออกจากปากอย่างโล่งอก ก่อนจะกัดฟันโต้ตอบเขาออกไป
“ฉันเองค่ะ มะลิ กรองอักษร”
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความแคลงใจและเหลือเชื่อของเขาปะทะเข้ากับดวงตาของหล่อนโดยบังเอิญ และมันก็ทำให้หล่อนถึงกับตัวสั่นเทิ้ม ช็อกกับปฏิกิริยาทางเพศที่เขาและหล่อนมีต่อกันยิ่งนัก
“เธอเนี่ยนะ?”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ และดูแคลนของผู้ชายตรงหน้าช่วยขจัดความวุ่นวายใจทางเพศที่เกิดขึ้นภายในกายสาวให้จางหายไปในที่สุด ความกรุ่นโกรธแทรกซึมเข้ามาแทนที่
“แล้วทำไมจะเป็นฉันไม่ได้ล่ะคะ”
หล่อนเห็นเขายิ้มเยาะที่มุมปากเล็กน้อย ตวัดตามองร่างกายของหล่อนอยู่หลายอึดใจ ก่อนที่ริมฝีปากหยักสวยที่อยู่ใต้จมูกโด่งงองุ้มจะเปล่งเสียงออกมา
“ฉันไม่คิดว่าเมียเก็บของน้าคาริสจะ... มอมแมมแบบนี้”
“เมียเก็บ?” หล่อนทวนคำพูดของเขาด้วยความตกใจ แปลกใจ และไม่พอใจ
“หรือว่าฉันเข้าใจผิดล่ะ”
มือเล็กที่กำด้ามไม้กวาดเอาไว้บีบแน่นขึ้น กลีบปากอิ่มเม้มเป็นเส้นตรง และมองเขาด้วยสายตากรุ่นโกรธ
“เห็นไหมว่าเธอปฏิเสธความจริงไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่ฉันเข้าใจก็คือความถูกต้อง”
เซรีมยอมรับกับตัวเองอย่างน่าสะอิดสะเอียนว่าเขาเสียดาย... ใช่ เขาเสียดายเหลือเกิน ที่ผู้หญิงหุ่นน่าฟัดตรงหน้าไม่ได้เป็นแค่สาวใช้ หรือแม่บ้านทำความสะอาดอย่างที่เขาเข้าใจตั้งแต่แรก แต่ความเป็นจริงแล้ว หล่อนคือเมียเก็บ... ใช่ เมียเก็บของน้าคาริส ผู้หญิงที่เขาต้องเก็บไม้เก็บมือให้ห่างไกลจากหล่อนที่สุด
เจ้าชายหนุ่มบิดปากเล็กน้อยด้วยความเกลียดชังตัวเอง เมื่อความจริงที่ได้รับรู้ กลับไม่ได้ทำให้ความต้องการที่มีต่อตัวของผู้หญิงตรงหน้าลดน้อยลงเลย เขายัง... ยังต้องการจะจับหล่อนขึ้นเตียง ยังต้องการจะสอดใส่เข้าไปในร่างของหล่อน ยังต้องการจะฟังเสียงครางของหล่อน ยามที่หล่อนนอนดิ้นเร่าๆ อยู่ใต้เรือนร่างเปลือยของเขา
ระยำ!
เซรีมสบถในอกด้วยความเดือดดาล เขาเกลียดที่ตัวเองคิดบ้าบอแบบนี้กับผู้หญิงไร้ราคาตรงหน้า
“ฉันคือ... เจ้าชายเซรีม บิน คาลดุน อัล อัลลาห์ แห่งราชวงศ์ซาเรีย และน้าคาริสก็เป็นน้องชายของคุณแม่ของฉันเอง”
คิ้วโก่งสวยดุจคันศรเลิกสูง ดวงตากลมโตหวานซึ้งเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ
“เจ้า... เจ้าชาย...? คุณ... คือเจ้าชายเหรอคะ”
“ใช่” เซรีมยกมือขึ้นกอดอกด้วยท่าทางยโสโอหัง “แล้วที่ฉันเดินทางมาที่นี่ ก็เพราะฉันจะมารับฮัสซันกลับนครซาเรีย”
ความรู้สึกร้อนฉ่าที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเพศระหว่างตัวเองกับเจ้าชายทะเลทรายตรงหน้าค่อยๆ จางหายไป เมื่อความจริงจากปากของเขากำลังทำให้หล่อนตัวเย็นเฉียบ
“ฉัน... ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคุณ... เป็นเจ้าชายจากซาเรีย”
ผู้ชายตรงหน้าของหล่อนระบายยิ้ม นัยน์ตาสีทองดุกระด้างมากจนน่าหวาดกลัว
“หน้าตาของฉันไม่เหมือนกับน้าคาริสบ้างเลยอย่างนั้นหรือ ลองมองให้ดีๆ สิ”
มะลิช้อนตาขึ้นกวาดมองผู้ชายแปลกหน้าอีกครั้ง ก่อนจะตอบตัวเองในใจว่าเขาเหมือนกับท่านคาริสผู้เป็นเจ้านายอย่างที่สุด แต่... แต่หล่อนรักฮัสซัน
“ฉันว่า... คุณกลับไปเถอะค่ะ เพราะฉันไม่มีวันยกฮัสซันให้กับคุณอย่างแน่นอน”
หล่อนหมุนตัวจะเดินหนีขึ้นบันไดบ้าน แต่แขนถูกอุ้งมืออบอุ่นกระชากเอาไว้เสียก่อน หล่อนเสียหลักถลาเข้าไปปะทะกับเรือนกายกำยำ กลิ่นชายชาตรีแห่งแดนทรายโชยเข้ามาในจมูก หล่อนเบิกตากว้าง มึนเมากับความปรารถนาทางเพศที่เกิดขึ้นมาเป็นครั้งแรกในชีวิต สติเริ่มขาดหาย ก้อนเนื้อหัวใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ
ใบหน้าหล่อจัดสีแทนค่อยๆ โน้มต่ำใกล้เข้ามาหามากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของหล่อนถูกตรึงเอาไว้กับดวงตาสีทองเรืองรองของเจ้าชายแห่งแดนทรายจนไร้ทางดิ้นหนี
หล่อนพยายามบังคับตัวเองให้หายใจ แต่กลับทำได้ยากเย็นนัก เมื่อคู่ต่อสู้ของหล่อนช่างหล่อเหลาเหลือเกิน
และก่อนที่ใบหน้าคมสันของเขาจะชิดกับหล่อนมากเกินไปกว่านี้ เขาก็ผลักหล่อนออกห่างแรงๆ และหัวเราะเยาะ
“เธอไม่มีทางเอาชนะฉันได้หรอก”
“ฉัน... ไม่ยอมยกฮัสซันให้กับคุณ หรือว่ากับใครหน้าไหนอย่างแน่นอน” หล่อนประกาศกร้าว “เชิญคุณออกไปจากบ้านของฉันได้แล้ว ออกไปเลย ไปสิ!”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้วละว่าเธอต้องการอะไร” เขาไหวไหล่กว้างของตัวเองเล็กน้อย “เอาเป็นว่าฉันอยากจะขึ้นไปบนบ้านของเธอ และอยากจะนั่งคุยกับเธอ”
“แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”
หัวใจของมะลิกำลังสั่นไหว เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกแยกออกจากเด็กชายที่ตัวเองเลี้ยงดูมาตั้งแต่แบเบาะ หล่อนรักฮัสซัน และก็จะไม่ยอมยกเด็กน้อยให้กับใครหน้าไหนทั้งนั้น ในโลกนี้ ฮัสซันไม่เหลือใครแล้วนอกจากหล่อน และก็คงไม่มีใครที่จะรักฮัสซันได้เท่ากับที่หล่อนรักอีกแล้ว
‘อย่าทิ้งฮัสซันนะ มะลิ’
คำสั่งเสียสุดท้ายก่อนที่ท่านคาริสจะสิ้นใจที่โรงพยาบาล หล่อนรับปากเจ้านายเอาไว้ และจะต้องทำให้ได้
“เอาน่า เชิญฉันขึ้นไปคุยข้างบนสักครู่จะเป็นไรไป”
